อัญมณีประจำเดือนเกิดกับความเชื่อ
เดือนมกราคม อัญมณีประจำเดือนเกิดคือ การ์เนต หรือ “โกเมน” ซึ่งเป็นอัญมณีที่มีสีแดงเข้ม หรือในบทกลอนที่ว่า “แดงแก่ก่ำโกเมนเอก” โดยเชื่อว่าเป็นพลอยที่นำมาซึ่งสุขภาพและความมั่นคงแก่ผู้สวมใส่ บางตำราเชื่อว่า เป็นอัญมณีแห่งความสุจริตใจ ความมั่นคง และความจริง ชาวเอเชียเชื่อว่า หากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนที่ทำมาจากการ์เนตแล้ว จะได้รับความเจ็บปวดอย่างทุกข์ทรมาน ในสมัยกลาง การ์เนตถูกใช้สำหรับการรักษาโรคบางชนิด โดยนำการ์เนตมาบดเป็นผงละเอียดแล้วนำมาพอกที่ตัวผู้ป่วยจะทำให้ผู้ป่วยหายเป็นปลิดทิ้ง แต่หากยังไม่หายแสดงว่าอัญมณีนั้นเป็นของปลอม
เดือนกุมภาพันธ์ มีอเมทิสต์ หรือ “พลอยสีดอกตะแบก” เป็นอัญมณีประจำเดือน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความมีสติ ความสมบูรณ์ ความเป็นเลิศ ชนชาติกรีกโบราณเล่ากันว่า เทพแบคคัส “เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่น” มีความโกรธแค้นที่เทพธิดาไดอานาไม่ใยดี จึงแก้แค้นโดยสาบานว่า ผู้ที่ตนพบเป็นคนแรกในขบวนเดินทางของตน และจะจับให้เสือกิน เมื่อสาวเคราะห์ร้ายนาม อเมทิสต์ เดินทางเพื่อไปสักการะเทพธิดาไดอานา ระหว่างทางได้พบกับขบวนของเทพแบคคัส จึงถูกเสือของแบคคัสเข้าตะปบอย่างดุร้าย อเมทิสต์ผู้เคราะห์ร้ายได้วิ่งหนีและวิงวอนต่อเทพธิดาไดอานาให้ตนรอดพ้นจากการเป็นเหยื่อของเสือ เทพธิดาไดอานาจึงเสกให้เธอกลายเป็นหินใสสะอาดบริสุทธิ์ เมื่อแบคคัสมาพบเกิดความเสียใจจึงเทเหล้าองุ่นลงบนก้อนหินนั้นทำให้กลายเป็นสีม่วงเหมือนกับสีของเหล้าองุ่น ซึ่งนำมาสู่ความเชื่อของชาวกรีกที่ว่า “หากผู้ใดดื่มเหล้าองุ่นที่อยู่ในถ้วยเจียระไนจากอเมทิสต์แล้ว ผู้นั้นจะไม่รู้สึกมึนเมาและควบคุมตนเองได้”
เดือนมีนาคม เป็นเดือนที่มีอัญมณีประจำเดือนเกิด 2 ชนิด คือ อความารีน กับ บลัดสโตน หรือ หินเลือดประ อความารีน เป็นอัญมณีสีน้ำเงินอมเขียว (greenish blue) จนถึงสีเขียวอมน้ำเงิน (bluish green) หรือสีเขียวหรือสีฟ้าน้ำทะเลอ่อนไปถึงเข้ม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์กันภัยหรือความแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุและอันตรายต่างๆ และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความอ่อนวัยตลอดกาล โดยมีความเชื่อว่าผู้เป็นเจ้าของอัญมณีนี้จะมีจิตใจสงบ มีแต่ความสุขกายสบายใจ อีกทั้งยังทำให้ชีวิตคู่ราบรื่นอีกด้วย ในสมัยกลาง อความารีน มีชื่อเรียกว่า “กระจกมหัศจรรย์” หรือ “ลูกแก้ววิเศษ” ที่หมอดูใช้ในการทำนายโชคชะตาให้กับผู้คน
เดือนเมษายน มีเพชร (diamond) เป็นอัญมณีประจำเดือน ซึ่งเป็นอัญมณีที่มีสีรุ้ง สามารถพบได้ตั้งแต่สีใสบริสุทธิ์ไปจนถึงสีดำ เพชรเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และความรักนิรันดร์ ในยุโรปเชื่อกันว่าเจ้าสาวที่สวมแหวนหมั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายมือ เพชรจะช่วยให้ความรักราบรื่นและยั่งยืนนาน ในสมัยกลางเชื่อกันว่าเพชรจะสามารถป้องกันโรคระบาด และป้องกันผู้ที่เป็นเจ้าของให้รอดพ้นจากสิ่งชั่วร้ายและภยันตรายต่างๆ ได้
เดือนพฤษภาคม มีอัญมณีประจำเดือน คือ มรกต (emerald) ซึ่งเป็นอัญมณีที่มีสีเขียว มรกตเป็นสัญลักษณ์แห่งความสวยงาม ที่ธรรมชาติสร้างไว้ให้แก่มนุษย์ และสีเขียวสดใสของพฤกษชาติที่หวนคืนในฤดูใบไม้ผลิ คนโบราณเชื่อว่าสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของการเสื่อมถอยของมิตรภาพ ความรื่นเริงของหญิงสาวและความปิติยินดีไม่ทะเยอทะยานของชายหนุ่ม ในสมัยพระนางเจ้าแคทเธอรีนของรัสเซีย เชื่อว่ามรกตสามารถรักษาโรคเกี่ยวกับตาและโรคลมบ้าหมูได้ ส่วนชาวเรือนั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับมรกตว่าสามารถช่วยให้รอดพ้นจากการจมน้ำตายได้
เดือนมิถุนายน มีอัญมณีประจำเดือนเกิด 3 ชนิด คือ ไข่มุก มุกดาหาร (มูนสโตน) และเจ้าสามสี (อเล็กซานไดรต์) ไข่มุก (pearl) เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ไข่มุกธรรมชาติและไข่มุกเลี้ยง ไข่มุกเกิดขึ้นจากเม็ดทรายหรือสิ่งมีชีวิตเล็กๆ หลุดเข้าไปในตัวหอยมุกทำให้เกิดความระคายเคืองจึงหลั่งน้ำมุกออกมาเคลือบสิ่งแปลกปลอมจนเกิดเป็นความวาวของไข่มุก ไข่มุกมีสีขาว ชมพู เงิน ครีม ทอง เหลือง เขียว น้ำเงิน ม่วง เทา และดำ ขึ้นอยู่กับชนิดของหอยมุก ในอดีตไข่มุกมีไว้สำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น ชาวฮินดูนับถือไข่มุกเป็น “อัญมณีแห่งความมั่งคั่งสมบูรณ์” มุกดาหารหรือมูนสโตน (moonstone) เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ มีสีขาวจนถึงไม่มีสี กึ่งโปร่งใสจนถึง โปร่งแสง สีสะท้อนแสงจะมีสีอมฟ้าหรือน้ำเงิน ในประเทศอินเดียเชื่อว่า มูนสโตนจะนำความโชคดีมาให้แก่ผู้สวมใส่ และถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ควรสักการะ เจ้าสามสีหรืออเล็กซานไดรต์ (alexandrite) เป็นอัญมณีสีดอกตะแบกและสามารถเปลี่ยนสีได้ คือมีสีเขียวเมื่อส่องดูกับแสงแดดหรือแสงฟลูออเรสเซนต์ และมีสีแดงอมม่วง เมื่อส่องดูภายใต้แสงเทียนหรือแสงไฟ ในประเทศรัสเซีย อเล็กซานไดรต์เป็นที่นิยมของชาวรัสเซีย เนื่องจากมีสีเขียวและสีแดง ซึ่งเป็นสีของทหารรักษาพระองค์ของจักรพรรดิรัสเซีย
เดือนกรกฎาคม มีอัญมณีประจำเดือน คือ ทับทิม (ruby) ซึ่งถือเป็นราชาแห่งหินมีค่าหรือผู้นำแห่งหินมีค่า ทับทิมเป็นอัญมณีที่มีสีแดงจนถึงสีแดงม่วง มีความเชื่อว่าทับทิมสามารถรักษาโรคไข้เลือดออก อาการตกเลือด และบาดแผลต่างๆได้ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าทับทิมจะสามารถช่วยผู้ที่เป็นเจ้าของจากการจมน้ำได้อีกด้วย คนอินเดียในสมัยโบราณเชื่อว่าถ้าใครนำทับทิมไปถวายแก่เทพเจ้า ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นกษัตริย์ ในประเทศพม่ามีความเชื่อว่าถ้านำทับทิมไปฝังไว้ใต้ผิวหนังจะสามารถปกป้องคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของ หรือถ้านำไปสวมใส่ที่นิ้วชี้และนิ้วก้อยจะทำให้ไม่มีโรคภัยได้
เดือนสิงหาคม มีเพริดอต (peridot) เป็นอัญมณีประจำเดือน มีชื่อเรียกอีกว่า “มรกตยาม-เย็น” คนโบราณเรียกเพริดอตว่า “พลอยแห่งดวงตะวัน” เพริดอตมีสีเขียวอมเหลืองอ่อนและมีสีปานกลางจนถึงสีเข้ม มีความเชื่อว่าเพริดอตมีอำนาจขับไล่ภูตผีปีศาจ และทำให้ผู้สวมใส่มีเสน่ห์ทำให้คนหลงใหลได้ นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าเพริดอตสามารถรักษาโรคเกี่ยวกับตับ ท้อง และอาการกระหายน้ำของคนไข้เมื่อวางไว้ใต้ลิ้น ถ้านำมาบดให้เป็นผงละเอียดสามารถช่วยรักษาโรคหืดได้ ในศตวรรษที่ 11 ชาวครูเสดจะพกเพริดอตติดตัวเมื่อยามออกจากบ้าน โดยเชื่อว่าจะทำให้ผู้สวมใส่ซื่อสัตย์สุจริตต่อกันเสมอ
เดือนกันยายน มีแซปไฟร์ (sapphire) เป็นอัญมณีประจำเดือน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความจริงและความมั่นคง แซปไฟร์มีสีน้ำเงิน สีเหลือง น้ำเงินปนเขียว เขียว ม่วง ส้ม และไม่มีสี เนื่องจากมีสีสันหลากหลายจึงถูกเรียกว่า “แฟนซี แซปไฟร์” โดยมีชื่อเฉพาะที่เราได้ยินกันทั่วไป ได้แก่ ไพลิน เขียวส่อง เขียวมรกต เขียวบุษย์ พลอยน้ำบุษย์หรือบุษราคัม บุษย์น้ำแตง นิหล่า และพลอยสตาร์หรือสาแหรก เป็นต้น แซปไฟร์ในตำรานพรัตน์เป็นรัตนชาติลำดับที่ 5 คือ ”สีหมอกเมฆ นิลกาฬ” มีนิยายเกี่ยวกับแซปไฟร์ว่าใช้เป็นอัญมณีของกษัตริย์เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายและดึงดูดความนิยมจากคนอื่น ชาวเปอร์เชียเรียกแซปไฟร์ ว่า “หินที่มาจากฟ้า” เพราะเชื่อว่าโลกวางอยู่บนแซปไฟร์ ในคัมภีร์ศาสนาคริสต์กล่าวว่า บัลลังก์ของเทพเจ้านั้นทำมาจากแซปไฟร์ นอกจากนี้แซปไฟร์ยังถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือด
เดือนตุลาคม มีโอปอ (opal) เป็นอัญมณีประจำเดือน โอปอเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและความบริสุทธิ์ โอปอมีคุณสมบัติพิเศษคือ มีการเล่นสีภายในตัวมันเอง และเป็นเหลือบสีประกายรุ้งที่เปลี่ยนสีได้เมื่อหมุนไปในทิศต่างๆ ชาวโรมันนับถือโอปอเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก และสามารถช่วยให้ผู้สวมใส่พ้นจากโรคภัยได้ ต่อมาในศตวรรษที่ 19 มีความเชื่อว่าในทางกลับกันว่าโอปอเป็นอัญมณีแห่งลางร้ายและความโชคร้าย ซึ่งมีสาเหตุมาจากนวนิยายเรื่อง Anne of Geierstein ของเซอร์วอลเตอร์ สกอตต์ ต่อมาโอปอก็ได้รับความนิยมอีกครั้งเมื่อ สมเด็จพระนางเจ้าวิกทอเรียมอบโอปอแก่พระราชธิดาในวันอภิเษกสมรส เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
เดือนพฤศจิกายน มีโทพาสหรือซิทรินเป็นอัญมณีประจำเดือน โทพาส (topaz) เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ โทพาส มีหลาย อาทิ สีเหลือง สีฟ้า หรือสีฟ้าอมเขียว สีเขียว สีฟ้าเข้ม สีฟ้าอ่อน สีน้ำเงิน สีน้ำตาล ส่วนสีแดงอมม่วงหรือสีชมพูค่อนข้างหายาก คนสมัยก่อนเชื่อว่าโทพาสมีพลังอำนาจทำให้สติปัญญาดี มีความกล้าหาญและขจัดความทุกข์ได้ และถ้านำมาทำเป็นสร้อยคอสวมใส่จะช่วยทำให้รอดพ้นจากเสน่ห์ยาแฝด อีกทั้งยังช่วยรักษาโรคหืด โรคนอนไม่หลับ อาการตกเลือดและแผลไฟไหม้ได้
เดือนธันวาคม มีอัญมณีประจำเดือน 2 ชนิด คือ เทอร์คอยหรือพลอยสีขี้นกการเวกและเพทายหรือเซอร์คอน (zircon) เทอร์คอย (turquoise) หรือพลอยสีขี้นกการเวก เป็นหินแห่งความโชคดี ทั้งเรื่องของความรักและการเงิน เทอร์คอยมีสีท้องฟ้า เขียวน้ำเงิน และเขียวแอปเปิลหรือเขียวแบบเทือกเขา ในเปอร์เชียมีความเชื่อว่า ผู้ที่สวมใส่เทอร์คอยจะมีโชคดีที่นำไปสู่ความสำเร็จด้านการค้าขาย ชาวอินเดียนแดงเชื่อว่าเทอร์คอยจะช่วยทำให้มีสัตว์มากมายมาให้ล่าและนำความสุขความโชคดีมาสู่ผู้สวมใส่ อินเดียแดงเผ่าอะปาเชเชื่อว่าถ้านำเทอร์คอยผูกติดตัวไว้กับอาวุธจะทำให้ลูกกระสุนหรือลูกธนูถูกเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
ขอขอบคุณข้อมูล และ อ้างอิงจาก : http://pooh-oil25.exteen.com/20090829/entry-6